​

หากเป็นคนชอบเดินทาง และอยู่ในวัยพลังล้นเหลือ เดินทางคนเดียวได้ แถมดูแลตัวเองได้ดี อยากชวนให้ต่อจนจบ เพราะ AWAY มีวิธีเดินทางท่องเที่ยว แบบประหยัดเงินในกระเป๋า แถมได้ประสบการณ์การเดินทางที่คุ้มค่ากว่าการเดินทางท่องเที่ยวแบบเดิมๆ เยอะเลย

วิธีที่ว่านี้ ไม่ใช่วิธีแปลกใหม่อะไร เพราะเชื่อว่าน่าจะมีนักเดินทางไม่น้อยจากทั่วโลก ต่างก็เคยใช้วิธีนี้กันมาแล้ว เพียงแต่ในเมืองไทย อาจไม่ค่อยพบพาน หรือยังไม่ค่อยมีใครใคร่ใช้วิธีแบบนี้กันมากเท่าไรนัก แต่ที่แน่ๆ รับรองว่ามันเวิร์ก และใช้ได้ผลจริงมาแล้ว

รวบรวมความกล้า แล้วใช้ความสามารถให้เป็นประโยชน์
ก่อนอื่นลองสำรวจตัวเองดูว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ร้องเพลงเป็นไหม เสิร์ฟอาหารได้หรือเปล่า พูดได้กี่ภาษาหรือว่าเข้าครัวได้ ถ้าทำอาหารเป็นด้วยนี่ รับรองว่าทริปนี้โชติช่วงชัชวาลครับ

ใช่แล้ว เรากำลังจะบอกว่าแทนที่จะเดินทางไปเที่ยวเฉยๆ อยากให้ลองไปสมัคร หรืออาสาไปช่วยทำงานในร้านอาหารในเมืองที่จะไปเที่ยวดู รับรองว่าวิธีนี้ทำให้หลายๆ คน ได้มีที่ซุกหัวนอน แถมมีอาหารกินฟรีๆ แบบไม่ต้องเสียเงินสักบาท หรือพูดได้ว่าเก็บเงินไว้จ่ายค่าเดินทางและช้อปปิ้งดีกว่า

ประสบการณ์ตรงที่จะขอยกตัวอย่างให้ฟังพอเป็นแรงบันดาลใจ อย่างในกรณีของคุณเอ๋ หนุ่มนักโฆษณาวัยยี่สิบปลายๆ ที่เก็บเงินจนพอมีจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวฮ่องกง และแน่นอนว่าไปฮ่องกงใครๆ ก็อยากช้อปปิ้งทั้งนั้น คุณเอ๋ จึงหาวิธีประหยัดด้วยการลดรายจ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จึงคิดว่าจะไม่จองโรงแรม ไม่หาที่พัก แต่หาข้อมูลว่ามีร้านอาหารไทยอยู่ในฮ่องกงกี่ร้านและแต่ละร้านอยู่ตรงไหนบ้าง เมื่อไปถึงฮ่องกงแล้ว ก็นั่งรถเมล์เข้าเมือง แล้วตรงไปที่ร้านอาหารไทยทันทีแล้วเจรจาว่าอยากมาหาประสบการณ์ในการทำงานร้านอาหารไทยสักวันสองวัน ระหว่างที่มาเที่ยวที่นี่ เพราะไม่อยากปล่อยเวลาว่างในช่วงเย็นๆ ค่ำๆ ให้ผ่านไปเฉยๆ โดยยินดีช่วยงานให้ฟรีๆ ไม่คิดค่าแรงแต่ขอแลกเป็นที่ซุกหัวนอน ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะร้อยทั้งร้อยทางร้านจะยินดีจัดอาหารให้ทานฟรีอยู่แล้วแค่นี้คุณเอ๋ ก็ใช้เวลาช่วงเช้าและตอนกลางวันไปท่องเที่ยวช้อปปิ้งอย่างสบายใจ พอเย็นๆ ค่ำๆก็มาช่วยที่ร้านอาหารไทย เสิร์ฟอาหารต่อ

ส่วนอีกตัวอย่าง ที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงต่างแดน แต่เป็นเมืองท่องเที่ยวสุดฮิตในเมืองไทยเรานี่เองโดยนักศึกษาปี 4 จากเชียงใหม่อย่างน้องตั้ม ที่เคยมาเที่ยวเชียงคานแล้วติดใจ จนอยากจะกลับมาอีกและคิดว่าหาโอกาสมาในช่วงเทศกาลอย่างช่วงสงกรานต์ ที่หาที่พักยาก ค่าครองชีพสูง แถมพนักงานในร้านอาหารชอบลากลับบ้านกัน

แน่นอนว่าร้านอาหารหลายๆ ร้านต้องขาดคนในการทำงานอย่างแน่นอน คิดได้ดังนั้น น้องตั้ม จึงได้ซื้อตั๋วรถทัวร์เดินทางจากเชียงใหม่มาที่เชียงคาน จังหวัดเลย พร้อมหอบหิ้วกีตาร์คู่กายมาด้วย งานนี้ตั้งใจว่าจะใช้ทักษะทั้งร้องทั้งเล่น แลกกับการขอที่พักพิง และอาหารการกินในบางมื้อ ซึ่งเมื่อมาถึงเชียงคาน ก็ลองแวะไปหาร้านอาหารที่เคยมาเที่ยวในครั้งก่อน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเพียงร้านแรกที่เดินเข้าไปคุย ก็ได้รับการตอบตกลงทันที ทริปนี้น้องตั้ม
ได้ทั้งที่พักและมีข้าวกินฟรีตลอดทริป ส่วนเรื่องค่าแรงนั้น ไม่ต้องการ เพราะถือว่าได้มาเที่ยวและได้พักผ่อน พร้อมได้ร้องเพลงซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่แล้ว

วิธีการทำงานกับร้านอาหารที่ว่ามานี้ เหมาะกับนักเดินทางที่มีพลังล้นเหลือ และมีปฏิภาณไหวพริบดี ที่สามารถเอาตัวรอดได้ในทุกสภาวะ ที่สำคัญไม่ควรพกพาสิ่งของมีค่าติดตัวไปมากเกินความจำเป็น เพราะหากมีสัมภาระมากเกิน ย่อมมีผลต่อการตอบรับ หรืออาจถูกปฏิเสธจากเจ้าของร้านอาหารที่ไปเจรจาด้วยอย่างแน่นอน