[ จริงๆ ที่นี่เป็นบ้านเก่าของครอบครัว อายุน่าจะมากกว่า 150 ปีได้นะคะ ส่วนตัวอาจไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้มากเท่าไหร่นัก คือจำได้ว่าเราเกิดที่นี่ พอประมาณขวบนึงก็ย้ายออกไปจากที่นี่ บ้านหลังนี้ก็ถูกญาติๆ ใช้เป็นสำนักงานในการทำธุรกิจ จนเราไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศหลายสิบปี พอคุณพ่อเสีย ก็เลยอยากกลับมาอยู่กับคุณแม่ แล้วบ้านหลังนี้ก็ถูกปิดตายไว้นาน ก็เลยตั้งใจที่จะกลับมาทำอะไรที่นี่ ไม่อยากขาย ไม่อยากให้คนอื่นมาเช่า คือแม้ว่าเราอาจไม่ค่อยได้อยู่ที่นี่ แต่เราก็ผูกพัน รู้สึกตลอดว่าเป็นบ้าน ที่มีความหมายว่า “บ้านจริงๆ” ของครอบครัวเรา  ]
 

คุณหมู เจ้าของ Chez Mou คาเฟ่เล็กๆ ในซอยเจริญกรุง 44 เริ่มต้นเล่าให้เราฟังถึงที่มาที่ไปของคาเฟ่แห่งนี้ ซึ่งคำว่า “Chez” เป็นภาษาฝรั่งเศสมีความหมายว่า “บ้าน” ชื่อ Chez Mou จึงหมายถึงบ้านของหมู ซึ่งคุณหมูกับคุณโลโล่ อาร์ตทิสชาวฝรั่งเศส ตั้งใจอยากให้ที่นี่เป็นทั้งคาเฟ่และบ้านพัก ที่ให้บรรยากาศเหมือนได้เข้ามาเยือนบ้านเพื่อนที่เป็นคนทำงานศิลปะ อบอุ่นและเปี่ยมรสนิยม สงบแต่ก็เย็นสบาย ร่มรื่นและเป็นกันเอง คือความรู้สึกที่เราสัมผัสได้ในทุกขณะที่ได้นั่งคุยกับเจ้าของทั้ง 2 ท่าน ของ Chez Mou แห่งนี้

ที่นี่มี 3 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นพื้นที่ที่ทำเป็นคาเฟ่เล็กๆ ซึ่งอาจรับลูกค้าได้ไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ก็เป็นความตั้งใจของคุณหมูและคุณโลโล่ผู้เป็นเจ้าของ ที่ไม่อยากให้ที่นี่วุ่นวายมากนัก เพราะอยากเน้นความสงบและบรรยากาศที่รู้สึกเป็นส่วนตัว ส่วนชั้น 2 และ 3 นั้น ทำเป็นห้องพักให้นักท่องเที่ยวนักเดินทางจองมาเข้าพักผ่านทาง Airbnb

ความยากในการจัดการบูรณะอาคารโบราณอายุกว่า 150 ปี คือ การจัดการระบบโครงสร้างที่ต้องอาศัยสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญและมีแนวคิดตรงกันในเรื่องความต้องการอนุรักษ์และรักษาตัวตนของอาคารเก่าไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งบังเอิญคุณหมูได้มีโอกาสไปพักบ้านพักที่จองผ่าน Airbnb ที่เป็นอาคารเก่าที่หัวหิน และชื่นชอบ จนตามหาตัวสถาปนิกที่เป็นคนดูแลการปรับปรุงบ้านพักที่หัวหินหลังนั้นจนเจอ และติดต่อให้มาเป็นดูแลการปรับปรุงโครงสร้าง ออกแบบ และตกแต่ง บ้านหลังนี้ ซึ่งคุณป๊อก วชิรศักดิ์ มณีวัฒนาพฤกษ์ ซึ่งเป็นสถาปนิกที่มีความชอบในการรักษาเสน่ห์ของอาคารเก่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้รับโจทย์และแลกเปลี่ยนมุมมองกับทางคุณหมู จึงได้เห็นพ้องต้องกันว่าส่วนไหนที่สามารถเก็บไว้ได้ก็จะเก็บไว้ให้มากที่สุด ส่วนไหนที่ต้องทำใหม่ก็จะออกแบบให้สอดคล้องและกลมกลืนไปกับแนวคิดเดิมของตัวอาคารและตามสไตล์ที่คุณหมูต้องการ

จากความตั้งใจดังกล่าว เราจึงได้มีโอกาสสัมผัสความงดงามของการก่ออิฐถือปูนจากฝีมือช่างโบราณในยุคก่อน การก่ออิฐเป็นรูปโค้งแบบ Arch การขึ้นโครงสร้างของผนังรับน้ำหนัก Wall Bearing ที่งดงามมากกว่าแค่งานปูนเปลือยของงานยุคใหม่ที่ไร้เสน่ห์ ทุกตารางนิ้วบนผนังของทุกด้านของที่นี่จึงมีเรื่องราวต่างๆ ซ่อนตัวอยู่อย่างน่าค้นหา อิฐแต่ละก้อนผ่านร้อนผ่านหนาวอยู่กับอาคารนี้มาแล้วกว่า 150 ปี

“จริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจทุบทิ้งไปแล้วก็ได้นะคะ เพราะงานปรับปรุงบูรณะอาคารเก่านี้ ค่าใช้จ่ายสูงมากเลย คือปลูกบ้านใหม่อาจใช้เงินน้อยกว่านี้ ตอนแรกคุณแม่ก็ทักว่าเราทำอะไรอยู่ เพราะมองไม่เห็นว่าสิ่งที่เราทำ จะให้ผลตอบแทนในเรื่องรายได้ที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน”






ที่ Chez Mou หรือคาเฟ่ที่ซ่อนตัวในบ้านพักศิลปินแห่งนี้ ถ้ามองในแง่การทำธุรกิจ ก็น่ามีข้อกังขาว่ากี่ปีจะคืนทุน เพราะมองไม่เห็นการได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่หากมองในแง่ของการทำธุรกิจที่ยังคงรักษาและอนุรักษ์อาคารโบราณของครอบครัวไว้ ในประเด็นนี้พูดได้เต็มปากว่า “ Chez Mou ทำหน้าที่นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ” 



ซึ่งนอกเหนือจากความงดงามของตัวอาคารที่ได้รับการบูรณะอย่างมีระบบแบบแผนแล้ว ที่นี่มีพลังของความรักเคลื่อนผ่านอยู่ตลอดเวลา เฟอร์นิเจอร์คละแบบทุกชิ้นที่ถูกบรรจงคัดสรรเลือกมาวางในตำแหน่งที่เหมาะเจาะ สีสันของเก้าอี้ ผ้าคลุมเบาะ ลวดลาย กลิ่นหอม เสียงเพลงแจ๊สเบาบาง ทุกอย่างคือพลังจากความรักที่คุณหมูและคุณโลโล่มีต่อบ้านหลังนี้ และส่งผ่านถึงใจให้แขกทุกคนที่มาเยือนสัมผัสได้แทบจะทันทีที่ก้าวเท้าย่างมาถึง






และเมื่อถามถึงเครื่องดื่ม และอาหารของคาเฟ่แห่งนี้

เราได้รับคำตอบว่าทั้งคุณหมูและคุณโลโล่ต่างก็เป็นคนที่หลงใหลและชื่นชอบในการดื่มด่ำกาแฟอย่างเป็นจริงเป็นจัง ครั้งที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ ก็จะมีความสุขกับการไปเยือนคาเฟ่ในย่านท้องถิ่นของแต่ละชุมชนเล็กๆ ในแต่ละเมือง เมื่อมาทำคาเฟ่เองก็อยากเสิร์ฟกาแฟที่ตัวเองชอบให้ลูกค้าที่มาเยือน ที่นี่จึงใช้เมล็ดกาแฟคั่วที่นำเข้ามาจากอังกฤษ อิตาลี และฝรั่งเศส เลือกตามคุณสมบัติเฉพาะของเมล็ดคั่วที่คุณหมูและคุณโลโล่มั่นใจว่าให้รสชาติที่ดีและจะเป็นที่ประทับใจสำหรับคนชอบจิบกาแฟอย่างแน่นอน

ส่วนอาหารนั้นจะมีเมนูอาหารพื้นเมืองฝรั่งเศสสไตล์โฮมเมดที่คุณโลโล่เป็นคนปรุงเอง อย่างเช่น คีช (Quiche) ไส้ต่างๆ ตามแต่วัตถุดิบที่มีความสดและเหมาะสมในแต่ละอาทิตย์ที่หามาได้ รวมไปถึงขนมอย่าง Apple Pie ที่จะทำสดทุกวัน ไม่ทำล่วงหน้าค้างคืนไว้ เพราะรสชาติและคุณภาพของแป้งจะสู้แบบทำวันต่อวันไม่ได้








และสำหรับห้องพักบริเวณชั้น 2 และชั้น 3 นั้น ต่างก็ได้รับการตกแต่งอย่างลงตัว ตอบโจทย์ฟังก์ชันในการใช้ชีวิตเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่ง 1 ห้องพักเหมาะสำหรับคู่รัก หรือคู่เพื่อน ทั้ง 2 ห้องตกแต่งด้วยสไตล์ที่ต่างกัน ชั้น 2 จะให้บรรยากาศที่มีความอ่อนละมุนเสมือนหญิงสาวผู้นอบน้อม ส่วนชั้น 3 จะให้บรรยากาศที่หนักแน่นเสมือนชายหนุ่มที่สุภาพและอบอุ่นในคราเดียวกัน



















หากใครกำลังมองหาคาเฟ่เล็กๆ ที่บรรยากาศร่มรื่น สงบและสบาย มีกาแฟรสดีให้จิบอย่างไม่ผิดหวัง พร้อมอาหารโฮมเมดสไตล์ฝรั่งเศส เราขอแนะนำ Chez Mou คาเฟ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักศิลปินแห่งนี้ รับประกันว่าจะประทับใจและอยากกลับมาอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างแน่นอน

Chez Mou
เลขที่ 190 ซอยเจริญกรุง 44 ถ. เจริญกรุง บางรัก กรุงเทพฯ
โทร. 081 645 0228
เปิดบริการ : 11.00 – 19.00 น. (ปิดวันจันทร์)