SHARE
Omakase Sushi

สวรรค์ของซูชิที่ไม่ไกลเกินเอื้อม กับความอร่อยขั้นเทพที่ต้องลองเสพสักครั้ง

SHARE

เพราะคนญี่ปุ่นพิถีพิถันและให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิต ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า วัฒนธรรมการกิน ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราคนไทยได้รับรู้และเข้าถึงกันมาบ้างไม่มากก็น้อย และแน่นอน กับ Omakase ก็ถือเป็น Sushi Culture ที่สะท้อนได้ถึงความเอาใจใส่ ที่หมายถึงการเอาใจใส่ตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดในวันนั้น การเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนการทำ และการเอาใจใส่ในความรู้สึกของลูกค้าตลอดการรับประทานในมื้อนั้น
 



คำว่า Omakase นั้น มีความหมายว่า  “I'll leave it up to you"  นั่นคือการวางใจให้เชฟเป็นคนตัดสินใจเลือกวัตถุดิบและเลือกปรุงซูชิแต่ละคำที่จะเสิร์ฟให้กับลูกค้าแต่ละคน ที่บอกว่าแต่ละคน เพราะเชฟจะหมั่นคอยสังเกตในระหว่างมื้อว่าลูกค้ามีท่าทีหรือรสนิยม การแสดงออกทางสีหน้า การตอบสนองอย่างไร กับซูชิที่เสิร์ฟให้ ซึ่งแน่นอนว่าต่อให้เป็นซูชิแบบเดียวกัน ปรุงด้วยวัตถุดิบตัวเดียวกัน ความละเอียดปลีกย่อยในรสชาติและรสสัมผัสก็อาจไม่เหมือนกันทุกประการก็เป็นได้ เสิร์ฟให้ผู้หญิง เสิร์ฟให้ผู้ชาย เสิร์ฟให้ลูกค้าที่ชอบกินซูชิเป็นประจำ หรือลูกค้าที่นานๆ กินที ซึ่งความใส่ใจเหล่านี้ของเชฟ ทำให้ความหมายของคำว่า I'll leave it up to you"  อาจเป็น โปรดวางใจว่าเชฟเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อเสิร์ฟซูชิที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้กับคุณคนเดียวในวันนั้น



พิถีพิถันแม้แต่วาซาบิ ก็ใช้แบบขูดสด และเฉพาะเจาะจงเลือกใช้หัวซาวาบิที่ขึ้นในช่วงสายลำธารไหลผ่านบนเขาฟูจิ เพราะเป้นที่รู้กันว่าหมุ่เชฟว่าเป็นวาซาบิที่มีคุณภาพและรสชาติดีที่สุด


ทั้งหมดที่เล่ามาได้ถูกพิสูจน์อย่างชัดเจนโดยไม่มีข้อกังขาอีกต่อไป เมื่อได้มีโอกาสมาลิ้มรส Omakase Premium ที่ Morimoto Bangkok ที่มีเชฟซาซาดะ หรือ Tomoki Sasada เชฟหนุ่มชาวญี่ปุ่น ที่เป็น Sushi Chef ที่มีประสบการณ์ตรงมาจากทั้งในโตเกียว และฮ่องกง ผ่านร้านที่เป็น Michelin Star มาแล้วหลายร้านด้วยกัน จนการันตีได้ว่าฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดาแน่นอน 




เชฟซาซาดะ บอกกับเราว่าวันนี้ได้เตรียม Multi-Course Premium Omakase Set ซึ่งเป็น Spring Specialties Ingredients ไว้ให้โดยเฉพาะ เพราะตอนนี้ที่ญี่ปุ่นเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ วัตถุดิบหลายๆ อย่างมีคุณค่าทางรสชาติที่ดีเยี่ยมและหายากมาก เพราะหนึ่งปีจะมีโอกาสไม่มากนัก ที่จะได้วัตถุดิบที่เป็นการผลิบานหรือการเริ่มต้นชีวิตใหม่ครั้งแรก หลังการผ่านพ้นฤดูหนาวมา






ชุด appetizer เรียกน้ำย่อย ที่เหมือนต้องมนต์สะกด จากความหวาน หอม ในสัมผัสแรก

 

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับการเสิร์ฟ Omakase Sushi นั้น คือ ความสามารถและทักษะของเชฟ ที่เมื่อได้วัตถุดิบที่ดีมาแล้ว จะต้องรู้ว่าควรนำวัตถุดิบนั้นๆ มาปรุงหรือทำอย่างไร จึงจะคุ้มค่าสูงสุดกับความสด หวาน หอม เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ทั้งในเรื่องของรสชาติและรสสัมผัสอันประทับใจและน่าจดจำ แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงซูชิ หรือข้าวปั้น ที่หลายคนคุ้นเคยและรู้จักดี แต่เชื่อเถอะว่าหากมีโอกาสสัมผัสหรือได้ลิ้มรส Omakase Sushi สักครั้ง จะรู้เลยว่า นี่คือศาสตร์และศิลป์แห่งข้าวปั้น ที่ไม่ใช่ว่าเชฟทุกคนจะทำได้ดีอย่างแน่นอน และเชฟซาซาดะ ก็สะกดให้เราตกไปอยู่ในห้วงลึกของความอร่อยของข้าวปั้นแบบถอนตัวไม่ขึ้น ข้าวปั้นที่แทบจะไม่ต้องจิ้มซอสโชยุเลยแม่แต่น้อย (สารภาพว่าภาพที่เราเห็นๆ กัน จนชินตากับการนำข้าวปั้นไปจิ้มซอสโชยุพร้อมขยี้วาซาบิลงไปในถ้วยนั้น จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ต้องทำเลยแม้แต่น้อย)









เราค้นพบว่า Omakase ที่ Morimoto Bangkok แห่งนี้ เชฟซาซาดะ พิถีพิถันมากในการทำซูซิแต่ละคำ ตั้งแต่ข้าวที่นำมาหุง ก็เป็นข้าวญี่ปุ่นชนิดพิเศษ ที่สั่งขัดมาแบบกำลังดี รักษาจมูกข้าวไว้บางส่วน รวมถึงขั้นตอนในการหุง น้ำที่ใช้ ภาชนะที่ใส่ และเมื่อได้ข้าวที่ดีเยี่ยมแล้ว ประมาณของข้าวที่ใช้ทำซูชิแต่ละคำที่จะเสิร์ฟให้กับลูกค้า ก็มีปริมาณที่สมดุลอย่างกำลังดีกับวัตถุดิบที่จับคู่ด้วย เพราะไม่ว่าจะเป็นเนื้อปลาชนิดไหน หรือจับคู่กับซีฟู้ดประเภทใด เราสังเกตได้ว่าปริมาณข้าวที่เชฟตัดสินใจเลือกมีผลมากกับรสชาติและรสสัมผัส ที่ช่วยส่งเสริมให้ซูชิคำนั้นอร่อยล้ำได้อย่างคาดไม่ถึงจริงๆ 







เราสงสัยว่าอะไรคือเวทมนต์ส่วนตัว ที่เชฟสามารถเสกให้ซูชิ ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงข้าวปั้นอันแสนธรรมดานั้น สามารถอร่อยล้ำได้ขนาดนี้ เชฟซาซาดะ บอกกับเราว่าเคล็ดลับในเรื่องนี้ คงอธิบายยาก เป็นเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ ความรู้สึกได้จากประสบการณ์ จากความใส่ใจ และความเชี่ยวชาญในรสชาติของวัตถุดิบต่างๆ เชฟบอกว่าความพิถีพิถันที่สะสมมานาน จะเป็นครูที่บอกเราได้ว่าวัตถุดิบแบบไหนควรปรุงอย่างไร







ซุปจากหัวกุ้งล็อบสเตอร์ญี่ปุ่น และ Sushi สูตรลับที่เชฟบรรจงสร้างสรรค์ให้เป็นพิเศษ




คำสุดท้ายของ Sushi ที่ปรุงจากการแยกไข่แดงและไข่ขาว อร่อยนุ่มละมุนลิ้น 




ชุดของหวานที่จะปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลและวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ละเดือน


นี่คงเป็นการยืนยันได้อย่างดีว่า Omakase คือ Sushi Culture ที่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ของข้าวปั้น ที่คุ้มค่าและเป็นบุญลิ้นแก่ผู้ที่ได้มีโอกาสไปสัมผัสประสบการณ์ตรงด้วยตัวเองอย่างแน่นอน

สวรรค์ของ Omakase Sushi เป็นจริงได้ โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น ไม่ต้องเชื่อทั้งหมดที่เราเขียนมา เพราะเราอยากให้คุณได้ไปลองเอง ที่ Morimoto Bangkok

Morimoto Bangkok :
4th Floor, MahaNakhon CUBE, 96 Narathiwas Ratchanakharin Rd., Silom, Bangrak, Bangkok, Thailand
Open : 11:30 AM - 2:30 PM, 6:00 PM - 1:00 AM
Tel : 02 060 9099


...........................................................................................................................................................................................




 

RELATED