หนีคนไปชมซากุระสวยๆ แบบไม่ต้องเบียดกับใคร ที่ซากะ กันดีกว่า ไปก่อนฮิต ได้ฮิปก่อนใคร

หลายๆ คน รู้จักจังหวัดซากะ จากละครชุด “ STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ ” รวมถึงจากภาพยนตร์เรื่อง “ TIMELINE จดหมาย ความทรงจํา ” ซึ่งทั้ง 2 เรื่องได้ใช้จังหวัดซากะ เป็นสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งนอกเหนือจากความงดงามของบ้านเมืองในมุมต่างๆ ที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คน ที่ไม่ว่าจะเป็นชุมชนท้องถิ่น หมู่บ้าน วัฒนธรรม บ่อน้ำแร่ออนเซน ภูเขา ทะเล และอีกหลายๆ ที่แล้ว ที่ซากะยังมีจุดชมดอกซากุระที่งดงาม ที่หลายๆ คนอาจนึกไม่ถึง มากนับสิบจุดสิบที่ กันเลยทีเดียว 

ปราสาทคาราสุ ตั้งอยู่ในเมืองคาราสุ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างมากกว่าเจ็ดปี เป็นปราสาท 5 ชั้น เป็นการก่อสร้างแบบมาอิซุรุ ในยุคสมัยของความรุ่งเรือง ที่สวยงามและแลดูขลังด้วยจุดที่ตั้ง ที่สามารถมองเห็นยอดปราสาทได้อย่างเด่นชัด ภายในปราสาทสร้างด้วยวัสดุชั้นดี และด้านบนที่ชั้น 5 ของปราสาท มีจุดชมวิวที่สามารถมองไปเห็นทะเลเกนไกอิ

รอบๆ ปราสาท คือสวนมาอิซุรุ ที่มีดอกไม้สวยงามผลัดกันผลิดอกเบ่งบานเกือบตลอดทั้งปี และแน่นอนว่าเมื่อดอกซากุระที่ปราสาทคาราสุเริ่มผลิบาน ก็งดงามไม่แพ้ที่ไหนๆ ในญี่ปุ่นเช่นกัน






การมาชมดอกซากุระที่คากามิมายะ ซึ่งอยู่บนภูเขาที่สูงกว่า 284 เมตร จะได้เห็นภาพมุมสูงจากอ่าว นิจิโนมาซุมาระ อ่าวคาราสุ และชิมาเคเกะ เพื่อผ่านไปยังคานาตะ ถือเป็นอีกจุดที่สวยงามที่สุดของซากะ ด้วยถนนริมหาดที่ยาวกว่า 5 กิโลเมตร ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้น จะได้สัมผัสความงดงามที่เป็นเสมือนอุโมงค์ดอกไม้ ที่รวมไว้ทั้งดอกซากุระ และอซาเลีย 




ภายในสวน เคชูเอ็น ซึ่งมีพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร นับเป็นอีกหนึ่งสวนในจังหวัดซากะ ที่มีการออกแบบและจัดวางอย่างสวยงาม ทั้งการกำหนดจุดในการวางก้อนหิน ต้นไม้หลากสายพันธุ์ที่ปลูกไว้ และยังมีน้ำตกเล็กใหญ่ที่งดงามไม่น้อยไปกว่ากัน และเมื่อถึงเวลาที่ดอกซากุระเบ่งบานแล้ว ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมที่ผู้คนต่างเดินทางมาชื่นชมความงามของที่นี่








หมู่บ้านโอกาวาชิยาม่า ซึ่งอยู่ในเขตอิมาริ (Imari) นั้น เป็นบริเวณที่รอบล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ มีภูมิประเทศที่มีดินภูเขาคุณภาพดี จึงเป็นที่มาของอาณาจักรเครื่องปั้นดินเผาของซากะ ที่ศิลปินชาวเกาหลีได้มาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยเอโดะ ซึ่งภายในหมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยอิฐ ปล่องไฟเก่าๆ และเตาเผากว่า 30 จุดด้วยกัน ถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่กว่า 350 ปี ที่ทุกวันนี้ก็ยังคงมีการทำกิจการเครื่องปั้นดินเผากันอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเป็นเมืองที่เป็นที่อยู่และพำนักของเหล่าศิลปินที่ทำงานศิลปะกัน ภูมิทัศน์ของเมืองนี้จึงงดงามด้วยลำธารที่โอบล้อมหมู่บ้านนี้ไว้ และวิวซากุระที่งดงามไม่แพ้กัน





ศาลเจ้าโทซัน สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 16 ซึ่งเทพเจ้าที่วัดนี้จะมีนามเป็นภาษาเกาหลีว่า Lee Sanpei หมายถึงเทพเจ้าแห่งเซรามิค ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้สร้างโดยฝีมือช่างชาวเกาหลี สถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นสุนัข ประตูศาลหน้าศาลเจ้า ก็ถูกออกแบบและตกแต่งด้วยอิฐดินเผา จึงมีความงดงามมากยิ่งขึ้น เมื่อดอกซากุระเบ่งบาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณทางรถไฟซึ่งเป็นทางรถไฟสายโบราณ ที่วิ่งผ่านหน้าศาลเจ้านั้น มีทิวดอกซากุระอยู่ขนานเคียงข้างทั้ง 2 ฝั่ง ใครไปชมดอกซากุระที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ไม่ควรพลาดวิวตรงริมทางรถไฟด้วยเป็นอันขาด





มาซากะ พลาดอะไรพลาดได้ แต่ใครพลาดไม่มาสวนแห่งนี้ถือว่าน่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะที่นี่มีพื้นที่กว้างกว่า 150,000 ตารางเมตร ออกแบบภูมิทัศน์โดย นาเบะชิมะ ชิเงโยชิ จิตรกรนักออกแบบภาพคาโนะ ชาวเกียวโต โดยสวนแห่งนี้ถูกออกแบบให้สวยงามดั่งภาพวาดตลอดทั้งปี คือไม่ว่าจะมาในช่วงฤดูไหน ก็มีความงดงามที่พร้อมสะกดทุกสายตามาเมื่อเห็นในทุกครั้ง ความงดงามของดอกไม้ที่นี่ ประกอบด้วย ซากุระ วิสทีเรีย และอาซาเลีย ซึ่งจะผลิดอกเบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ ส่วนในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และใบไม้ร่วง ก็งดงามไม่ได้น้อยไปกว่ากัน





ยิ่งไปกว่านั้นหากมีเวลาและไม่ต้องรีบกลับ แนะนำว่าควรอยู่ชมทัศนียภาพของสวนแห่งนี้ยามค่ำคืน เพราะด้วยการจัดไฟที่ลงตัวช่วยขับให้เหล่าดอกซากุระที่เบ่งบานอยู่ในสวนแห่งนี้ ยิ่งงดงามมากยิ่งขึ้น และรับรองว่าจะเป็นภาพที่ตราตรึงประทับจิตประทับใจยากแก่การบรรยายจริงๆ  




 

นอกเหนือจากทิวดอกซากุระที่งดงามแล้ว ที่ด้านหลังศาลเจ้าทาเคโอะแห่งนี้ ยังมีสถาปัตยกรรมทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และมีอายุมานานกว่า 3,000 ปี นั่นคือต้นสนการบูรขนาดใหญ่ ที่มีพลังชีวิตอันทรงพลังจนรู้สึกได้มาไปยืนอยู่ใกล้ๆ และต้นการบูรแห่งนี้ คือต้นแบบของแรงบันดาลใจของบ้านต้นไม้ในการ์ตูนโตโตโร่ด้วย

และในบริเวณเขตศาลเจ้าทาเคโอะ ยังมีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ Wife-Husband ที่มีรากและลำต้นติดกันอยู่สองต้น ยืนเคียงคู่กัน ราวกับผู้เป็นสามีกำลังโอบกอดภรรยา จึงมีผู้มาไหว้บูชาในเรื่องความรัก คู่ครอง โดยมีธรรมเนียมที่ชาวญี่ปุ่นมักนำกระดิ่งมาผูกที่บริเวณเชือกที่คล้องระหว่างต้นไม้ทั้งสองต้น เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้สมหวังในความรัก




วิวดอกซากุระกับน้ำตกที่งดงามแห่งนี้ อยู่ใกล้กับเมืองออนเซน ยูเรชิโนะ (Ureshino) ซึ่งจะได้สัมผัสกับความงดงามของน้ำตกที่แบ่งเป็น 3 ชั้น มีความสูงทั้งหมด 11 เมตร ชื่อของน้ำตกแห่งนี้หมายถึงเสียงระเบิด “บูม” จากเสียงของน้ำตกเมื่อกระแทกลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง ภายในสวนใกล้แอ่งน้ำที่ไหลมาจากน้ำตก มีสะพานแขวนสีแดงเล็กๆ ที่ชื่อว่าทาคามิ (Takimi Bridge) พาดผ่าน จึงเป็นอีกจุดชมวิวของต้นซากุระที่งดงามมากทีเดียว




ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1688 เป็นศาลเจ้านิกายชินโต ประจำตระกูลนาเบะชิมะ (Nabeshima clan) ผู้ปกครองเมืองซากะ ในสมัยเอโดะ เป็นศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับ 3 รองจาก ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushi-mi Inari Shrine) ในเกียวโต (Kyoto) และศาลเจ้าคะซะม่าอินาริ ( Kasama Inari Shrine) ในอิบาระกิ (Ibaraki)

ซึ่งแน่นอนว่าวิวด้านบนของศาลเจ้านั้น ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ ยามที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง จะงดงามอลังการจนลืมหายใจ ลืมวันเวลา ถ่ายรูปกันเพลิดเพลิน โพสต์ออนไลน์แทบไม่ทันกันเลยทีเดียว

...................................

การเดินทางมายังจังหวัดซากะ
มีอยู่ 2 วิธี คือ นั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินนานาชาติซากะ โดยสามารถบินมาได้จากทั้งในประเทศและจากนอกประเทศ หรือบินมาลงที่สนามบินฟุกูโอกะ แล้วจึงต่อรถไฟ JR มายังจังหวัดซากะ

อยากรู้ครบทุกเรื่องเกี่ยวกับ ซากะ
คลิก http://saga-travelsupport.com/th/saga.html