หลงเสน่ห์ 2 เมืองเก่า ที่เก๋าได้ใจในสเปน
เมื่อพูดถึงประเทศสเปน หลายคนมักนึกถึงศิลปะและสถาปัตยกรรมที่มีความขลังและสวยงาม ขอบอกว่ามาถูกทางแล้ว เพราะวันนี้ AWAY จะพาไปเยือนเมืองวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของสเปน นั่นคือเมืองToledo และ Segovia
ถึงจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่มีเสน่ห์ไม่น้อยเลยทีเดียว...
TOLEDO
ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ...
เรียกว่าเป็นเมืองสุดฮิตติดอันดับของสเปนเลยก็ว่าได้เพราะ Toledo เป็นเมืองหลวงเก่าของอาณาจักรสเปนโบราณ และยังเป็นเมืองมรดกโลกที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม แม้เป็นเพียงเมืองเล็กๆ แต่ก็โดดเด่นและมากด้วยศิลปกรรมแบบลูกผสม เพราะเคยเป็นเมืองขึ้นของชาวมัวร์ (ชาวมุสลิมจากแอฟริกาเหนือ) ทั้งมุสลิม คริสต์ และยิว เรียกได้ว่าสวยงามเกินคำบรรยาย ที่ต้องมาเห็นด้วยตัวเองจริงๆ
มาเยือนเมืองนี้ทั้งทีจะพลาดสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่อย่างToledo Cathedralได้อย่างไร เพราะวิหารแห่งนี้นอกจากจะผสมผสานระหว่างภายในที่เป็นสเปนผสมสไตล์บารอกและภายนอกเป็นสไตล์กอธิคของฝรั่งเศสแล้ว
ยังกว้างใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสเปน รองจากวิหารเมืองเซบีญ่า จนสามารถเห็นโบสถ์นี้ได้ทุกตรอกซอกซอยของเมือง ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นฝีมือระดับเทพ ที่หากไม่มีศรัทธามากๆ แล้ว คงไม่สามารถสร้างได้งดงามและใช้เวลานานถึง 300 กว่าปี เช่นนี้แน่ๆ เมือง Toledo จึงถือเป็นเมืองที่นักเดินทางทั้งหลายห้ามพลาด!
นอกจากนี้เมือง Toledo ยังเต็มไปด้วยโบสถ์และมหาวิหารอีกมากมาย เพราะในช่วงปี ค.ศ. 1087-1561
ก่อนที่พระเจ้า Philip ที่ 2 จะย้ายเมืองหลวงไปยังกรุงมาดริด จะมีเฉพาะบรรดาราชวงศ์และข้าราชการที่ย้ายไปเท่านั้น ส่วนพระสงฆ์หรือบาทหลวง ยังคงตั้งหลักอยู่ที่นี่ Toledo จึงคงความเป็นศูนย์กลางของคริสตจักร
ที่มาเที่ยวเมื่อไรก็มีเสน่ห์ทุกครั้ง ไม่เพียงแค่นี้ ที่สถานีรถไฟ Toledo ก็ทำให้ตะลึงกับความงามของอาคารสถานีเช่นกัน จนต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปกันแบบกดชัตเตอร์ไม่มียั้ง เพราะสวยงามสะกดทุกสายตาจริงๆ
TAKE IT EASY
หากไม่อยากแบกเป้หนักๆ ออกนอกเมือง ที่สถานีรถไฟ AtochaRenfe ในกรุงมาดริด มีตู้ล็อกเกอร์รับฝากของ โดยสามารถไปซื้อตั๋วได้จากตู้อัตโนมัติ กดเลือกขนาดล็อกเกอร์ที่ต้องการ จากนั้นนำตั๋วไปสแกนที่หน้าตู้ที่มีสัญญานไฟสีฟ้า ใส่ของแล้วนำตั๋วไปสแกนซ้ำ สัญญานไฟจะเปลี่ยนเป็นสีแดง เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย แถมค่าบริการ
ไม่แพง เมื่อแลกกับความสะดวกสบายที่ได้มา
SEGOVIA
กลิ่นอายความคลาสสิก ที่ไม่เคยจาง
อีกหนึ่งหมุดหมายที่ต้องปักหมุดไว้เลยว่าต้องมาคือ เมือง Segovia ที่อยู่ห่างจากกรุงมาดริด ขึ้นไปทางเหนือ
90 กม.และยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งแต่สมัยที่ถูกครอบครองโดยอาณาจักรโรมันโบราณ สถาปัตยกรรมและอาคารบ้านเรือนของที่นี่จึงได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะโรมัน ใครที่ชอบเดินชมบรรยากาศ
เมืองเก่าๆ ต้องลองหาโอกาสมาเยือนสถานที่สวยงามของเมืองนี้สักครั้ง
สะพานส่งน้ำเข้าเมืองสมัยโรมันที่สมบูรณ์แบบที่สุด สร้างขึ้นในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 1ซึ่งในยุคนั้นชาวโรมันโบราณมีการลำเลียงน้ำจากแม่น้ำนอกเมืองเข้ามาในตัวเมือง โดยในตัวกำแพงมีจุดเก็บกักน้ำ ที่เป็นเหมือนแท้งค์น้ำขนาดใหญ่สร้างโดยอิฐจุน้ำได้หลายแกลลอน ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง Segovia ที่ยืนตระหง่านเป็นด่านแรกในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่เดินทางมายังเมืองนี้
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงามไม่แพ้เมืองอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Segovia Cathedral โบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก ที่สร้างขึ้นช่วงปี ค.ศ. 1525-1577 ซึ่งภายในตกแต่งแบบศิลปะกอธิกโบราณอย่างงดงาม
ใช้ในการประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาของเมือง รวมไปถึง San Millán โบสถ์สไตล์โรมาเนสก์ที่เก่าแก่ที่สุด
ใน Segovia สร้างขึ้นในช่วงสมัยกษัตริย์ Alfonso (King of Aragon) ในช่วงปี ค.ศ. 1111-1124 บริเวณลานด้านหน้ามีรูปปั้น Juan Bravo และSphinx ซึ่งเป็นรูปปั้นในศิลปะกอธิกที่สำคัญทีเดียว โบสถ์นี้อาจไม่ได้ตกแต่งแบบหรูหราอลังการเมื่อเทียบกับที่อื่น แต่รับรองว่าสวยคลาสสิคไม่แพ้กันเลย
และสุดท้ายคือAlcázar of Segovia ปราสาทหินเก่าแก่ของเมือง Sagovia ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำ Eresmaรูปร่างของปราสาทคล้ายคันธนูของเรือ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นฐานตั้งมั่นหากถูกข้าศึกรุกราน ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นเรือนจำที่กักขังนักโทษคนสำคัญแล้วนำมาใช้เป็นโรงเรียนฝึกทหารสเปน จนในปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ
ใช้จัดแสดงประวัติศาสตร์ของเมือง และถือเป็นต้นแบบของปราสาทซินเดอเรลล่าอีกด้วย ส่วนด้านข้างของปราสาทนี้จะมีร้านกาแฟเล็กๆ สุดชิลล์ซ่อนตัวอยู่ ด้านในเป็นลานนั่งเปิดโล่ง ให้ได้รับลมชมวิวอย่างเพลิดเพลินทีเดียว
เชื่อเถอะว่าถ้าได้มาเที่ยว 2 เมืองเก่าอย่าง Toledo และ Segoviaจะต้องตกหลุมเสน่ห์ของสเปนเข้าอย่างจัง
จนอยากกลับมาเที่ยวที่นี่อีกทันทีที่มีโอกาส แนะนำว่ารีบวางแพลนให้พร้อมแล้วออกเดินทางกันเถอะ